วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

อาจารย์พูดถูกคะ

วันนี้เป็นวันที่ไปส่ง poster ครั้งที่ 3 อาจารย์อนุธินบอกว่า เราเลือก font ที่จะมาใช้ก็งานไม่เป็น ซึ่งก่อนหน้านี้ เราไม่เคยรู้ตัวเองเลยว่าเราเลือก font ไม่เป็น เราคิดแค่ว่าเราอยากได้ font หนาๆ ดูเรียบๆแค่นั้น แต่เราลืมคิดไปเลยว่ามันเหมาะสมกับงานเราไหม จนได้มาส่งงานชิ้นนี้ลองมองขึ้นไปบนโปสเตอร์ของตัวเอง ว่ามันเป็นอย่างที่อาจารย์อนุธินพูดจริงๆหรือเปล่า เออ... จริงด้วย font ที่เราเลือกมาทำโปสเตอร์มันไม่เหมาะกับงานเราเลย ถ้าอาจารย์นุไม่บอกข้อบกพร่องของเรา เราคงไม่คิดที่จะสนใจมัน มองข้างผ่าน เพราะการเลือกfontมาทำงานนี่มันสำคัญมากน่ะ แต่ทำไมเราลืมที่จะเลือกมันให้ดีกว่านี้ หรือว่าไม่รู้เลยว่า fontไหนดูดีดูเหมาะกับงานเราจริงๆ

present 3

เลือก poster ชิ้นนี้ส่งค่ะ


งาน 2 ชิ้นสุดท้ายนี้เป็นชิ้นที่ทำๆแต่คิดว่ายังไม่พอใจเท่าที่ควรเลยทำไปทำมาเลยเลือก
ชิ้นแรกสิ่งค่ะ




วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

present 2

งาน โปสเตอร์ชิ้นที่ 2 คะ ชิ้นนี้ดีขึ้นหน่อย แต่ยังไม่ดีเท่าไหร่ อาจารย์นุบอกว่า concept หาย แต่ครั้งหน้าจะทำให้ดีกว่านี้ค่ะ สัญญา

present

งาน cd poster ชิ้นแรกคะ

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรื่องที่เพื่อนๆน่าจะเคยเจอ

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอ เหตุการณ์อะไรสักอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกอยากจะบ้าตาย อย่างเช่น คุณทำงานใกล้เสร็จแล้ว แต่อยู่ดีๆไฟก็ดับ ทั้งๆที่คุณกำลังจะ saveมัน มันเลยทำให้คุณท้อ และอยากจะตัดมันออกไปจากใจ ไม่อยากสนใจแล้ว แต่ก็ไม่ได้ มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ คุณเลยต้องเริ่มจาก ศูนย์ ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากจะเป็นแบบนี้คุณก็ควรที่จะทำไปเซฟไปด้วย และมันจะทำให้คุณเป็นคนรอบครอบขึ้นโดยอัตโนมัติ

ทำไม

ทำไมคนส่วนใหญ่มักจะชอบมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัว ทั้งที่สิ่งใกล้ตัวนั้นแหละคือความจริงใจกับคุณที่สุด แต่คุณกับมองข้าม
แล้วทำไมคนส่วนใหญ่จึงเห็นค่าสิ่งอื่นๆที่อยู่ไกลตัว ทั้งๆที่คุณยังไม่รู้จักเค้าดีเลย ทำไม....

แลกกัน

วันก่อน ไป jj มา เห็นเสื้อสวยมาก เราก็เลยเลือกๆๆๆ ยืนเลือกสักแป๊บนึง ก็มีคนมาดัน ทำยังกับว่าเรามาทีหลัง เราก็งง คิดในใจว่าทำไมเค้าไมมีมารยาทอย่างนี้น่ะ ทำไมต้องมาเบียกให้เรากระเด็นออก แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เดินออกไม่ซื้อละหมดอารมย์ เลยไปเดินดูของอย่างอื่นกันกับน้อง แล้วพอมาวันนี้ ไปเดินซื้อของอีก เจอร้านขายกิ๊ฟ สวยมาก แต่คนดูเยอะมาก ความรู้สึกเราก็อยากจะวิ่งไปเบียด แต่เราก็คิดได้ เหตุการณืวันนั้น จึงหยุดชะงักแล้วคิดว่า ความรู้สึกของคนๆนั้นที่เข้ามาเบียดแย่งของกะเราคงไม่ตั้งใจหรอก อาจจะเป็นเพราะเค้าเห็นแล้วเกิดความตื่นเต้น อยากซื้อเลยเข้ามาดู เลยลืมคิดถึงคนอื่น ก็เหมือนกับความรู้สึกที่เราอยากจะเดินเข้าไปเบียดแย่งของกับคนอื่นนั้นแหละ เลยทำให้รู้ว่า คนเรา อย่าตัดสินแค่พียงการกระทำเพียงครั้งเดีย แล้วตัดสินว่าเค้าไม่มีมารยาท แต่ต้องลองเอาใจเค้ามาใส่ใจเราด้วย

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ประหารชีวิต

เมื่อวานดูข่าวเกี่ยวกับนักโทษประหารชีวิต 2 คน น่าสงสารมาก คือเคยดูรายการๆหนึ่ง จำไม่ได้ว่า รายการอะไร เค้าเคยพาไปดูวิธีการประหารชีวิต ไปดูที่เก็บศพ ประตูผี ทางเดินจากที่ไหนนี่แหละจำไม่ได้ แล้วต้องเดินปิดตาไปแดนประหาร แล้วก่อนประหารเค้าจะบอกภายในวันนั้นเลย คือไม่มีการได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย เพราะกลัวนักโทษประหารจะเครียด คือ ระหว่างทางเดินไปแดนประหารก็จะมีต้นไทร มีศารพระภูมิ ซึ่งนักโทษประหารจะไม่ได้เห็นเลย เพราะโดนปิดตา ก่อนประหารเค้าก็จะให้ทำพินัยกรรม โทรไปสั่งเสียกับครอบครัว ทานข้าวมื้อสุดท้าย นำพระมาเทศนา คือ น่าเศร้ามาก เห็นแล้วสงสาร คือเราดูแล้วเราก็เศร้าตามน่ะ คิดว่าถ้าเป็นคนที่เรารู้จักนี่ เราคนเศร้ามาก ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆไม่อยากจะเป็นอย่างั้น ก็อย่าไปยุ่งกับยาเสพติดโดยเด็ดขาด ไม่ฉะนั้นอาจจะเป็นเหมือนสองคนนั้นก็ได้นะ จำไว้ว่าโทษของยาเสสพติดร้ายแรงที่สุด มันยิ่งกว่าฆาตกรรมอีกน่ะ

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

-*-*-*-*-

ช่วนี้จ่องคอมนานๆไม่ค่อยได้เพราะปวดตามาก

ไม่เท่ากัน

คนเรามีความคิดที่ต่างกัน มีความสามารถที่ต่างกัน ก็ทำให้อะไรหลายๆอย่างไม่อาจจะเท่ากันได้ หมายถึง ความเอาใจใส่ในการเรียนอาจจะไม่เท่ากัน จึงทำให้มีความแตกต่างระหว่างคนสองคน ในโลกนี้เลยไม่มีความพอดี เพราะว่าเราไม่เท่ากัน

ทำสปาหลินปิง

บางครั้งก็รู้สึกอิจฉาหมี ว่าทำไมเกิดมาชีวิตที่แสนสุขสบายอย่างนี้ ตั้งแต่เกิดมา เรายังไม่เคยเข้าสปาเลยด้วยซ้ำ

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

error!

เอาผลงานทำงาน cd5มาให้เพื่อนๆได้ชม ตั้งใจทำมาก แต่ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะว่าไปเป็นการทำ stop motion ครั้งแรกเลย แต่ file มันตกขอบด้านขวาหน่อย ถ้าอยากดูเต็มๆก็คลิ๊กเข้าไปในตัวเว็ปเลยดีกว่า ยังไงก็ช่วยกันไปดูด้วยน้า

หลังจากทำงานนี้เสร็จ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะต้องวาดให้มันเคลื่อนที่ตั้ง 799 รูป ได้ประมาณ 3 นาทีก็เกือบตาย ทำเราสลบไปเลย เมื่อถึงห้องสลบไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็วันอาทิตย์ตอนเย็น รู้สึกปวดตามากกกก ทำเรา error ไปเลย ถึงผลงานจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่ แต่เราก็ภูมิใจน่ะที่ตั้งใจทำมัน ถึงแม้ว่าคะแนนออกมาจะเป็นอย่างไรก็พร้อมจะยอมรับ

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ผีหลอกกก

วันนั้นเช้ามาณประมาณ 6 โมง เรายังไม่ทันตื่นหรอก กำลังงงัวเงียๆอยู่ เพราะพี่ตื่นขึ้นมาคุยโทรศัพท์ เราก็ตื่นเพราะเสียงพี่นั้นแหละ เราก็ได้ยินเสียงพี่คุยโทรศัพท์ ด้ยินเสียงพี่อยู่ฝ่ายเดียว

ยังไม่ได้นอนเลยหรอ

ขนาดนั้นเลยหรอ

พยายามหลับตานอน

ท่องพุทโธ ๆๆ

อย่าไปคิดอารายมาก

ไอ้เราก็สะดุ้งตื่นเลย แสดงว่าต้องโดนผีหลอกแน่ๆ ด้วยความสนใจอยากรู้อยากเห็น รอให้เค้าคุยโทรศัพท์เสร็จก่อนแล้วค่อยถาม ว่าแฟนพี่โดนผีหลอกหรอ พี่สาวก็หัวเราะใหญ่เลย ถามว่าทำไมคิดอย่างนั้น เราก็ตอบไปตรงๆว่า ก็ฟังจากที่คุย เห็นพูดว่า

ยังไม่ได้นอนเลยหรอ

ขนาดนั้นเลยหรอ

พยายามหลับตานอน

ท่องพุทโธ ๆๆ

อย่าไปคิดอารายมาก

ซึ่งทั้งหมดพี่เราพูดถึงกาแฟ กินกาแฟแล้วตาค้าง นอนไม่หลับ ยังไม่ได้นอนเลย พี่เราเลยหัวเราะใหญ่เลย 5555

ลองมาคิดดูแล้ว การที่เราไปแอบฟังโทรศัพท์ที่เค้าคุยกัน สิ่งที่เราได้รับคือสารจากฝ่ายเดียว แล้วเราเอามาสรุปเอาเอง อาจจะเป็นเรื่องที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม คนละเรื่องกันเลยก็ได้ จริงไหม ถ้าเราไม่แน่ใจอย่าสรุปเอาเองว่าเรื่องที่เราได้ยินมันต้องเป็นอย่างนู้นอย่างนี้แน่ๆ ควรฟังแล้วนำมาคิดพิจราณาไตรตรองให้ดีเสียก่อน

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ใกล้

วันนี้พ่อบ่นใหญ่เลย หาแว่นไม่เจอ ทั้งๆที่แว่นนั้นอ่ะ พ่อใส่อยู่ พวกเราก็พากันหาๆๆๆๆๆๆๆ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนเป็นเรื่อง พ่อหงุดหงิด แม่ก็ช่วยหา พี่ก็ช่วยหา เราก็ช่วยหา ระหว่างที่พ่อกำลังก้มไปดูใต้โต๊ะนั้นแว่นก็หล่นลงจากตาของพ่อเอง พ่อก็บอกว่าเจอแล้วๆๆๆๆๆ แม่ถามพ่อว่าอยู่ไหน ก็อยู่กะตานี่แหละถึงว่าหายังไงก็หาไม่เจอ (กำ) ไม่แปลกเท่าไหร่หรอกที่พ่อหาไม่เจอ แต่ที่แปลกสุดๆก็คือแม่ พี่ และก็เรา นี่แหละ ที่ยืนคุยยืนมองหน้าพ่ออยู่แท้ๆกลับมองไม่เห็น ไม่ได้สังเกตกันเลย เป็นเรื่องแปลก ที่ของที่อยู่ใกล้เรามาก แต่เรากลับมองไม่เห็นมัน มองข้าม มองผ่าน ถ้าตัวเราเองมองไม่เห็นมันแล้วใครจะเห็น จริงไหม ตัวเราต่างหากที่สัมพัสมันได้ แต่มองข้ามผ่านมันไปเอง

****เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คุณมองเห็นค่าของคนที่อยู่ใกล้ๆตัวคุณหรือยัง หรือมองข้ามผ่าน****

บ้านใหม่

วันนี้ได้มาถึงบ้าน ( 18 ก.ค. 2009 ) ที่สกลนคร เป็นบ้านหลังใหม่ ที่เรายังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
เพราะพ่อกะแม่พึ่งย้ายมาเมื่อต้นเดือนนี้เอง หลายคนถามว่าทำไมถึงย้ายบ้าน ทั้งๆบ้านที่เราอยู่มันเป็นบ้านเราเราแท้ๆ แล้วทำไมต้องย้ายไปอยู่อีกหลัง ทั้งที่ค่าใช้จ่ายก็ต้องสูงขึ้นมากกว่าเดิมเยอะเลย หลายคนคงคิดว่า ยังไม่รู้จักพอ แต่ความจริงแล้ว ครอบครัวเราไม่ฟุ่มเฟือยน่ะ พอมีพอใช้ ไม่ดิ้นรนหาความสุขอะไรมากมายกับชีวิต แต่ที่ต้องย้ายก็คือความสบายใจ เมื่อบรรยากาศที่เราอยู่มันเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เราก็ต้องไปหาที่มีอากาศหายใจที่บริสุทธ์จริงไหม คงไม่มีใครอยากอยู่กับสภาพแวดล้องที่ทำร้ายตัวเองหรอก ถ้าชีวิตของเรายังมีลมหายใจ และพอที่จะมีแรงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ก็ไม่ผิดที่เราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ถึงแม้มันจะรำบากแค่ไหนก็ตาม
หากคุณคิดที่จะบอกรัก
หรือรู้สึกตัวเองเริ่มที่จะรักใครสักคน
ลองถามตัวเองดูว่า คุณใส่ใจเค้ามากน้อยแค่ไหน
ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความเอาใจ
หากคนรักของคุณจำได้ขึ้นใจว่า
คุณเคยพูดว่าอยากได้อะไร แล้วเค้าหาซื้อของชิ้นนั้นให้
ไม่ใช่สักแต่ว่าซื้อของเยอะแยะมากมายเพื่อเอาใจ...
นั่นแหละถึงเรียกว่า...ค ว า ม ใ ส่ ใ จ
ควาใส่ใจ ไม่ใช่ ความหึงหวง
หาคนรักของคุณโทรหาคุณทุกคืน
ถามว่ากลับบ้านหรือยัง
เพียงเพราะเค้าเป็นห่วง
ไม่ต้องการให้คุณได้รับอันตรายในยามดึก
ไม่ใช่กลัวว่าคุณจะไปกับคนอื่น...
นั่นแหละเรียกว่า ค ว า ม ใ ส่ ใ จ
ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความมีน้ำใจอย่างเดียว
หากแต่มีความถนอมน้ำใจด้วย
หากคนรักของคุณทำอะไรเพื่อคุณสักอย่างด้วยความตั้งใจ
แต่คุณกลับไม่ชอบมัน
คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกไป
ใ ส่ ใจ ในความรู้สึกของเค้าด้วย
หากคุณทะเลาะกับคนรัก
แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คนรักของคุณยังโทรมา
แสดงความเป็นห่วงในเรื่องต่างๆ เหมือนทุกๆวัน
ทั้งๆที่ยังไม่หายโกรธ..
นั่นแหละเรียกว่า...ค ว า ม ใ ส่ ใ จ
หากคนรักของคุณยอมสละเวลาทำบางสิ่ง เอาไว้ทีหลัง
เพียงเพื่อช่วยทำในสิ่งที่คุณขอ..
นั่นแหละ เรียกว่า ค ว า ม ใ ส่ ใ จ
คนเราบางครั้งก็ต้องการมีใครสักคนคอยใส่ใจเราบ้าง
หากคุณต้องเดินทางไกล
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณโทรมาถามว่า
"ถึงหรือยัง" "ปลอดภัยดีไหม" "เหนื่อยไหม"
หากคุณต้องปฏิบัติภารกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องเรียน
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณจำได้
และโทรมาบอกว่า "โชดดีนะ" "ฉันจะคอยเป็นกำลังใจให้"
หากคุณต้องขับรถคนเดียว มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาบอกว่า
"ขับรถดีๆนะ"
หากคุณป่วยไข้ไม่สบาย มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาเตือนคุณให้คุณ
"กินยาและพักผ่อนมากๆ"
ความใส่ใจ กับความเกรงใจ คล้ายกันในหลายๆด้าน
คุณอาจคิดว่า ยิ่งคบกันสนิทสนมกันมากเท่าไหร่
ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจให้มากเหมือนคนที่เพิ่งเริ่มรู้จักกัน
แต่เราไม่คิดอย่างนั้น ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่
ต้องยิ่งเกรงใจซึ่งกันและกัน
ความเกรงใจเป็นสิ่งที่ดี
และเป็นบ่อเกิดของความสัมพันธ์อันยั่งยืน
คุณเห็นไหมละว่า
ไ ม่ ย า ก เ ล ย ที่ จ ะ แ ส ด ง ค ว า ม ใ ส่ ใ จ ต่ อ ใ ค ร สั ก ค น


คนที่คุณรัก เค้าใส่ใจคุณแค่ไหนก็หมายความว่าเค้ารักคุณเท่านั้นน่ะ

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ขอมาอัพทีเดียวหลังจากกลับบ้านนะคะ

ตอนนี้กลับบ้านที่ต่างจังหวัด

พอดีย้ายบ้านใหม่ด้วย

เน็ตยังใช้ไม่ได้ เห็นเค้าบอกว่าสิ้นเดือนจะมาติดให้

ยังไงขอติดเอาไว้มาอัพครั้งเดียวน่ะคะ

ระหว่างนี้เราจะจดบันทึกลงสมุดทุกวันนะ

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ยึดติด

บางครั้งก็ลองมานั่งคิดน่ะ ว่าถ้าเราไปยึดติดกับอะไรบางอย่างมันมากเกินไป หวังผลที่จะได้รับมากเท่าไหร่ อาจจะทำให้เราเสียใจกับมันมากเท่านั้น
เหมือนกับความรัก ถ้าเราหวังว่าคนที่เรารักจะรักเราเท่าที่เรารักเค้า นั้นก็คือการยึดยิดอย่างนึง แล้วถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เราคิดหละ ถ้าเรารักเค้าข้างเดียว เรารักเค้ามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเจ็บเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามทำใจให้เป็นกลาง อย่าไปยึดติดอะไรกับมันมาก รักเท่าที่จะรักได้และรักเท่าที่จะยอมเสียมันไปได้ ถ้าเราเสียมันไป เราก็ต้องอยู่คนเดียวให้ได้

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

size effect

ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับ size effect เค้าวิจัยว่า เท้าผู้หญิงมีขนาดใหญ่ขึ้น ในปี ค.ศ.1960 เฉลี่ยเบอร์รองเท้าคือเบอร์ 5.5 สิบปีต่อมา ค.ศ 1970 เฉลี่ยะเบอร์รองเท้า 6.5 สิบปีต่อมา ค.ศ.1980 เฉลี่ยรองเท้าเบอร์ 7.5 นั้นก็คือ มนุษย์มีวิวัฒนาการที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วถ้า เวลาผ่านไปหนึ่งพันปี มนุษย์จะมีขนาดใหญ่ขนาดไหน ประตูบ้านที่สร้างไว้ในปัจจุบันคงต้องทุบแล้วทำใหม่แน่ๆ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ของที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ก็ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นตามขนาดคนเราไปด้วยจริงไหม

ละคร

เคยดูละครช่อง....กันบ้างป่าว ช่วงเย็นๆหนังมันจะไม่ค่อยดีน่ะ สำหรับให้เด็กๆดูกัน ส่วนผู้ใหญ่นี่ดูไม่ได้เลย ในความรู้สึกของเราเราคิดว่าหนังช่อง...เนี๊ยะ เป็นหนังที่ติ๊งต๊องมาก และการถ่ายทำก็ชั่งโกหกกันอย่างน่าตาเฉย ถ่ายกลางวันกลางคืน ก็มั่วกันไปหมด ประมาณว่าคนอยู่ที่เดี๋ยวกัน พอกล้องจับภาพคนนึงกลางวัน อีกคนนึงกลางคืน ทั้งๆที่คุยมองหน้ากันอยู่ด้วยซำ ไม่เข้าใจว่าเค้าทำเพื่อให้มันเสร็จๆไปหรือว่ากลุ่มทาเก็ตเค้าเป็นเด็กเค้าถึงไม่ตั้งใจทำ หลอกเด็กหลอกง่ายดีหรอ

ที่เค้าทำแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรมากมาย แต่มันสื่อถึงระครไทยในปัจจุบันที่ไม่มีการพัฒนา ละครไทยยังไงก็ทำให้คนไทยดู ไม่มีวันเลยหรอที่ละครไทยจะทำให้คนทั่วโลกดูได้ เหมือนละครเกาหลี จุดด้วยข้อนี้แหละที่ละครไทยยังไปไม่ถึงไหน

เล็กน้ำพิเศษ

วันนี้ตอนเย็นๆหลังเลิกเรียนได้แวะไปกินก๊วยเตี๋ยวหน้ามหาลัยก่อนเข้าหอสั่งเล็กน้ำพิเศษกินด้วยความหิว พ่อค้าทำเสร็จก็เดินมาเสริฟ ถามว่าน้องพิเศษป่าว ก็ตอบไปว่าใช่คะ เค้าก็เดินกลับถือถ้อยก๋วยเตี๊ยวที่ทำเสร็จแล้วเดินกลับไป เค้าตักลูกชิ้นลวกให้ 2 ลูก แล้วก็เดินมาเสริฟให้ที่โต๊ะ ซึ่งเรางงมาก เนี๊ยะหรอพิเศษ ลูกชิ้นสองลูก 5 บาทเลยหรอ ซื้อลูกชิ้นใต้หอกินกว่าไหม เดี๋ยวนี้อารายๆก็เพิ่มราคาขึ้นหมด

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เวลาที่ไม่เท่ากัน

คนที่ชอบไม่ตรงต่อเวลา ส่วนใหญ่จะคิดว่าทำไมเวลามันผ่านไปเร็วขนาดนี้น่ะ
แต่สำหรับคนที่ตรงต่อเวลา และได้มารอคนที่ไม่ตรงต่อเวลา ทำไมรู้สึกว่าเวลาทำไมเวลามันผ่านไปช้าอย่างนี้นะ

ทำไมคนเราเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่รีบร้อนมากๆแล้วจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วทั้งๆที่เวลาก็ยังวิ่งเร็วเท่าเดิม

ทำไมคนเราเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเป็นฝ่ายรอ แล้วจะมีความรู้สึกว่าเวลาทำไมมันผ่านไปช้า ทั้งๆที่เวลาก็ยังวิ่งเร็วเท่าเดิม

เราเคยคิดกันไหมว่าทำไม

ทำไมเวลาจึงสามารถทำให้คนรู้สึกไม่เท่ากัน อาจจะเป็นเพราะว่าเวลาสำคัญกับการดำรงค์ชีวิตมาก คนเราทุกคนเห็นว่าเวลาสำคัญกันทุกคน แต่เลือกที่จำใช้มันแตกต่างกันออกไป

บางคนเห็นเวลาสำคัญ จึงเป็นคนตรงต่อเวลา

บางคนเห็นเวลาสำคัญ แต่มีความจำเป็นบางอย่าง ที่ไม่สามารถตรงต่อเวลาได้

บางคนเห็นเวลาสำคัญ แต่ตื่นไม่ทัน จึงต้องรีบมาเท่าที่จะรีบได้ แต่ก็ไม่ทันอยู่ดี

ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เวลานั้นยังไงมากกว่า

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แบบทดสอบ : ทายนิสัยจากการอ่านหนังสือการ์ตูน

วันนี้ลองนั่งเล่น แบบทดสอบ : ทายนิสัยจากการอ่านหนังสือการ์ตูน ลองดู เพราะว่าเป็นคนชอบอ่านหนังสือกาตูนนานมากแล้ว แต่ปัจจุบันเป็นคนไม่อ่านกาตูนเลย ลองเล่นดูว่ามันจะเป็นจริงไหม คำทำนายจะทายว่าไง แล้วก็เล่นจนจบ มีคำถาม 10 คำถาม แต่ผลสรุปก็คือ

"เป็นคนที่เลือกเดินทางสายกลาง ในการใช้ชีวิต ไม่คิดมากเกินไป และไม่ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านเลยไปง่าย ๆ พร้อมรับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเจอปัญหาหนักเกินจะรับไหว คุณสามารถหาคนมาช่วยได้ ใช้ชีวิตด้วยความสนุกสนาน อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ไม่ซ้ำซากจำเจ โกรธง่ายหายเร็ว เปิดเผยความรู้สึกออกมาตรง ๆ ไม่เก็บเอาไว้"

ไม่ถูกเลย มีบางอยางที่อาจจะถูกบ้างแต่น้อยอ่ะ เราคิดว่าการที่เรามาทำทดสอบแบบนี้มันไม่แน่นแนหรอก สิ่งที่แน่นอนควรจะเป็นตัวเรามากกว่า ที่รู้ดีมากที่สุดเกี่ยวกับตัวเรา แบบทดสอบสำหรับเราเราคิดว่าทำขึ้นมาเพื่อให้คนตื่นเต้นหรือสนุกไปกับมันมากกว่า เชื่อไม่ค่อยได้

มีคริปวิดีโอโฆษณาน้ำดื่มของต่างประเทศมาให้ดู น่ารักมากเลย ลองดูกันนะคะ

พัดลม

วันก่อนใส่ถ่านพัดลมกลับขั่วกันแทนที่มันจะไม่ติด แต่กลับติด แต่มันไม่เย็นเอาซะเลย มันดันไปเย็นหลังพัดลมซะงั้น พึ่งเคยเจอมีแบบนี้ด้วยหรอ

ของแพง

ว่าไปแล้ว ของแพงก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป วันก่อนไปซื้อเสื้อมาราคา 800 บาท เพราะดูดี และอยากได้ด้วย ด้วยความที่วันนั้นมีเงินด้วยเลยตัดสินใจซื้อไป และเชื่อไหมว่าวันนี้เจอเสื้อแบบเดียวกันกับเสื้อที่ซื้อวันก่อนเปี๊ยบเลย ไม่มีความแตกต่าง เนื้อผ้า สี เหมือนกันหมด ด้วยความที่อยากจะรู้ว่าเค้าขายราคาเท่าไหร่ เลยเข้าไปถาม โอ้...ไม่น่าเชื่อราคามันห่างจากกันตั้ง 600 แหนะ ก็ราคามันแค่ 200 เอง เป็นใครใครก็เซง เราก็เลยลองมานั่งคิดว่าทำไมราคามันต่างกันขนาดนี้นะ พอมาคิดๆแล้วคงเป็นเพราะคนละสถานที่ละมั้ง ที่ที่เราไปซื้อมันอยู่ในห้างสัพสินค้าที่หรู ส่วนที่เราไปเจอมันเป็นที่ร้านขายหน้าเมเจอร์ตอนเย็นๆ แต่คนก็ชอบที่จะไปซื้อของที่ห้างหรูๆ ไม่รู้ทำไม ทำไมเราต้องเอาเงินไปช่วยเค้าจ่ายค่าที่ด้วย จริงๆแล้วเสื้อเค้ารับมาขายอาจจะตัวละร้อยก็ได้ แต่พอเอามาวางขายให้เราก็เพิ่มราคาที่ขึ้นมาอีกเป็น 800 ทำไมเราต้องโง่ไปซื้อของแพง ในคุณภาพเท่าๆกันกับของตลาดนัดด้วย

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เสียดายตังค์

วันนี้ไปช๊อปปิ้งมา มีตังค์ 1000 เดียวเอง แต่อยากได้นู้นได้นี่ อยากได้รองเท้าใหม่ อยากได้เสื้อใหม่ อยากได้กางเกงใหม่ อยากได้กิ๊ฟใหม่ โอ๊ยๆๆๆ อยากได้ทุกอย่างเลย ทำไงดี ตังค์ไม่พอแน่ๆ พยายามข่มใจ เอาอะไรสักอย่างนึง อาทิตหน้าค่อยเอาอีกอย่าง เดี๋ยวตังค์จะไม่พอใช้ด้วย ก็อุส่าห์อดใจไว้ได้ แต่ที่ทำให้เสียดายตังค์ไม่ใช่เพราะว่าเราไปซื้อของที่เราอยากได้ และตั้งใจจะซื้อเลย แต่ได้โคมไปราคา 800 บาท ซึ่งซื้อมาแล้วถึงห้องแล้วมานั่งดูมัน เนี๊ยะหรอที่เราจะไปซื้อ ทำไมทีตอนซื้อทำไมอยากจะได้จัง ทีตอนมันมาอยู่กับเราแล้วก็คิดว่า ซื้อมาได้ไง โคมไฟที่ห้องก็มีเยอะแยะ แทนที่จะซื้อของที่ตัวเองอยากได้และตั้งใจอยากจะซื้อ กลับได้อะไรก็ไม่รู้ ซึ่งซื้อมาแล้วก็ไม่ได้ใช้อารายหรอก ตั้งไว้ประดับความสวยงามเท่านั้น

เรื่องแปลก

วันนี้ตกใจมากเมื่อรู้ว่า มีอาจารย์คนนึงโดนแบรนจากนักเรียนปี 3 ซึ่งอาจารย์คนนี้ก็เป็นอาจารย์อีกคนนึงที่เรานับถือและก็ชอบ และก็อาจจะมีบางอย่างที่ไม่ค่อยชอบอยู่บ้าง แต่โดยรวมอาจารย์เป็นอาจารย์ที่ดีน่ะ สอนให้นักเรียนกะตือรือร้น แต่คนที่เรียนกับอาจารย์ได้ก็คงต้องเป็นคนที่ขยันด้วยถึงจะเรียนกับอาจารย์คนนี้ได้ ซึ่งเราเป็นคนนึงที่เรียนกับอาจารย์คนนี้ได้ แต่คะแนนไม่ค่อยดีเพราะว่ามาเรียนไม่ทัน มัวแต่ทำงานเพื่อจะมาส่ง ทำเสร็จแล้วทำอย่างดีเลย เลยโดนหักครึ่งนึง ที่มาสายไม่ใช่ว่ามัวปั่นงานน่ะ แต่อาจารย์ให้งานอาทิตย์และสองสามงานเลย มันยากน่ะ ทุกงานเราต้องการให้มันออกมาดีเราก็ตั้งใจทำ ตั้งใจมาก จนเราทำไม่ทัน มาเรียนไม่ทัน คะแนนหักครึ่ง ซึ่งจะว่าไปก็โหดอยู่ แต่อาจารย์เค้าเป็นอาจารย์ที่ดีน่ะ มีเหตุมีผล แต่ไม่น่าเชื่อน่ะว่า จะมีนักเรียนไม่ชอบกันทั้งห้อง จนต้องไปฟ้องอธิการบดีคณะ จนอาจารย์เค้าไม่ได้สอนเลย น่าสงสารอ่ะ ทำไมนักเรียนห้องนี้ถึงทำกันแบบนั้นน่ะ แทนที่จะแก้นิสัยขี้เกียจของตัวเอง แต่มาแก้ที่คนอื่น เพียงเพราะคนอื่นเค้าไม่เป็นเหหมือนตัวเอง แต่ที่แปลกใจมากๆคือเป็นกันทั้งห้อง อาจจะไม่เป็นทั้งห้องก็ได้ บางคนอาจจะตามเพื่อน ตามเพื่อนไป เห้อ.......การแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ถูกน่ะ ควรแก้ที่นักเรียนมากกว่านะ แต่ปัญหาที่แท้จริงเราไม่รู้ แต่ที่รู้แค่ว่าเคยเรียนกับอาจารย์มาแล้ว รู้ว่าอาจารย์เป็นยังไง ซึ่งจากการวิเคราะห์ คงจะเป็นคนที่ขี้เกียจอ่ะ ถึงเรียนกับอาจารย์คนนี้ไม่ได้

เวลา

วันนี้นั่งทานข้าวกับเพื่อนๆ เอมมี่ แอน กราฟ โบ ก็คุยเรื่องนู้เรื่องนี่กันไปเรื่อย จนได้คุยกันเรื่องเวลาเข้าเรียน อีกกี่นาทีจะเข้าเรียน นาฬิกาเอมมี่บอกว่า อีกสิบนาที แต่ความจริงแล้วเหลือเวลาอีก 20 นาทีเข้าเรียน เอมมี่บอกว่าเดี๋ยวค่อยเข้่ก็ได้ นาฬิกาเราตั้งไว้เร็วไป 10 นาที เออ เมื่อรู้อยู่แล้วว่านาฬิกาตัวเองเร็วไปสิบนาที แล้วจะตั้งเลยเวลาจริงทำไม ในเมื่อตัวเองก็รู้อยู่ว่ามันเร็วไปสิบนาที

คนส่วนใหญ่ชอบตั้งเวลาไว้เกินความเป็นจริง เพื่อให้ตัวเองกะตือรืร้นมากขึ้น เพราะว่าคิดว่าเวลาที่ตั้งไว้อาจจะทำให้เราเร่งรีบกว่าความเป็นจริง แต่ทุกคนก็รู้น่าว่าตั้งไว้เป็นเวลาเท่าไหร่ เกินไปเท่าไหร่ ถ้ารู้ว่าเกินไปเท่าไหร่ แล้วจะทำให้เรารีบขึ้นได้จริงหรอ ยกตัวอย่างเรื่องการเข้าเรียนวันนี้ มันก้ไม่ได้รีบไปจากเดิมเลย เพราะความเป็นจริงเวลาที่ตั้งไว้เกินไป 10 นาที ก็คือมันยังไม่ถึงเวลาจริงๆหรอก

แต่สำหรับเราน่ะ เราตั้วเวลาเกินไว้เท่าไหร่ไม่รู้ จำไม่ได้ ที่จำไม่ได้เพราะว่าไม่อยากจำ เพราะว่าถ้าจำได้ เราก็ไม่ได้รีบไปจากเดิม บางทีอาจจะทำให้เราสับสน ลืม จนทำอะไรไม่ทันๆไปเลยก็ได้

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ตี10

เมื่อคืนได้ดูรายการ ตี10 ช่วงสนทนา แขกรับเชิญวันนี้เป็นใครไม่รู้จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าเป็นนักร้องเก่า เป็นคู่แฝด เป็นนักร้องยุคเดียวกันกับลิฟออยอ่ะ น่าจะใช่ ดูจากการแต่งตัวของเค้าเหมือนลิฟกับออยสมัย "ดูไม่ดูดูไม่เสียตัง" พอจำกันได้ไหม 555 ซึ่งตอนนี้เค้าก็เลิกเป็นนักร้องแล้ว ออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งตอนนี้เค้ารวยมากๆๆ บ้านยังกับวังเลย เค้าบอกว่าเบ้านเค้ามีกุมารทองเป็นพันๆองค์เลย แล้วเค้าก็มีจริงๆน่ะไม่ได้โกหก เค้าเล่าว่าเมื่อก่อนเค้าไม่เชื่อ แต่มาได้เจอกับเหตุการหลายๆเหตุการเค้าก็เชื่อและซื้อกุมารทองมาเพิ่มเรื่อยๆ จนตอนนี้มีพันๆองค์ จากที่ดูมาเค้าก็ไม่น่าโกหกน่ะ แต่ที่แปลกใจมากคือ เค้าเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นหนุ่มๆ ประกอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไม่น่าจะมาเชื่ออะไรเรื่องแบบนี้ แต่เค้าก็ชื่อ ซึ่งจากที่เค้าเล่าให้ฟังว่า เค้ามีไว้เป็นที่พึ่งทางใจ อืม........ส่วนเราไม่มีอะไรเลย นอกจากพระพุทธเจ้า พระก็ไม่ได้แขวน ไหว้พระก็ไม่ค่อยได้ไหว้ อย่างนี้เราจะมีที่พึ่งทางใจไหมเนี๊ยะ -*-

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คนแรก

มีอยู่เว็ปไซด์หนึ่งที่เราเข้าไปอ่านข่าวนู้นอ่านข่าวนี่ทุกวัน นั้นก็คือเว็ป sanook.com แล้วมันก็จะมีกระทู้ฮอตอยู่บนหน้าเว็ปเลย กระทู้ไหนที่คนเข้าไปดูเยอะที่สุดและก็กำลังฮอตอยู่ก็จะได้ขึ้นหน้าเว็ป เราชอบเข้าไปอ่านน่ะ แต่เวลาเข้าไป อ่านบทความในเรื่องนั้นๆจบ แล้วก็ลองมาอ่าน comment ไอ้คนที่เข้ามาคนแรกหรือว่าได้ comment เป็น comment แรกอ่ะ รู้สึกว่าจะดีใจมากเลย แล้วไอ้คนที่ 2 ก็จะมาเม้นตอบว่า เสียดายจังอดเป็นคนแรก ไอ้คนที่สามที่สี่ก็จะมาเม้นบอกว่า อยากเป็นคนแรกบ้าง รู้สึกเบื่อมาก เพราะแทบจะทุกกระทู้เลย ไม่เข้าใจว่าจะแย่งกันเป็นคนแรกทำไมกัน เหอๆๆ ถ้าได้รางวัลก็ไม่น่าแปลกใจ แทนที่จะคอมเม้นเกี่ยวกับเนื้อหาที่อ่าน แต่มาคอมเม้น "ดีใจจัง ได้เป็นคนแรก"

มันน่าแปลกน่ะ ที่คนเราดีใจอะไรกับอะไรที่ไม่เป็นเรื่อง เป็นราว ไม่มีอะไรให้น่าภูมิใจเลยสักนิด ได้เป็นคนแรกในกระทู้นั้นก็ใช่ว่าจะมีคนดีใจไปกับคุณด้วยสักหน่อย ไม่เข้าใจว่าเป็นอะไรกันไปหมดแล้ว เห้ออออออออออ.....................

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ใครเคยอ่านพุทธทำนายบ้าง

เราเคยอื่นมานานแล้วน่ะ ตั้งแต่ม.1 แล้ว ตอนแรกอ่านก็ไม่ค่อยเชื่อน่ะ แต่พอมาอ่านอีกทีรู้สึกกลัวมากเลยอ่ะ กลัวว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ เพราะว่าบางเหตุการก็เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆ อย่างเช่น สึนามิ แล้วล่าสุด ที่มีอุทกภัยที่จีน น้ำท่วม 2 เมตรเลย ถ้าเป็นเราเราคงจมหายไปกับน้ำแล้ว มีคนตายเยอะเลย แล้วยังเรื่องเกาหลีใต้อีก ที่แอบซุ่มทำอาวุธนิวเครีย เป็นจริงอย่างที่พระพุทธเจ้าทำนายเลยอ่ะ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง อย่างน้อยประเทศเราก็ดีกว่าแระเทศอื่นๆ ถ้าจะถามว่าเชื่อไหม ตอนนี้บอกได้เลยว่า 80 เปอร์เซนต์ อีกยี่สิบ คิดเข้าข้างตัวเอง

ไม่เชื่อลองอ่านกันดูนะ ถ้าอย่ากอ่านเพิ่มก็ไปหาใน google แล้วกัน เยอะแยะ มีพระอาจารย์หลายๆท่านก็เคยพูดกันไว้ แต่อ่านแล้วก็วิเคราะห์ไปด้วยนะ ไม่อยากให้งมงาย

ลองอ่านดูตามลิ้งค์ข้างล่างนี้
v
v
v
v
http://webboard.mthai.com/7/2007-11-01/353217.html



La La La - Bigbang

การเมือง



น่าเบื่อจัง เปิดไปเจอกี่ทีต่อกีที่ ก็เบื่อ ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ปัญหาไม่จบสักที เบื่อรัฐบาลด้วย ทำงานมาตั้งหลายเดือนละ ยังไม่เป็นผลงานที่ดีขึ้นเลย อำนาจที่ได้มาก็ไม่ได้มาจากประชาชนจริงๆ แค่ได้มาจากคนกลุ่มๆเดียวเท่านั้น ถ้าเชื่อมันในสักภาพตัวเองจริง ทำไมไม่กล้าที่จะให้เลือกตั้งใหม่เลย จะได้จบปัญหาสักที เป็นเพราะไม่มั่นใจว่าตัวเองจะชนะใช่ไหม ถ้าประเทศไทยเป็นอบ่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากประเทศพม่าเลย นี่ไม่ได้เข้าข้างใครเลยนะ ทั้งเสื้อเหลืองเสื้อแดง






อยากให้เลือกตั้งใหม่ จะได้จบปัญหาสักที









วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ตีหน้า

เราคิดว่าปัจจุบันนี้คนเราในสังคม ชอบตีหน้าเข้าหากันน่ะ เราคิดว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่กันเป็นสังคม หลายๆสังคมเน๊๊ยะ ไม่ว่าจะเป็นสังคมโรงเรียน สังคมการทำงาน สังคมการเมือง หรืออะไรก็ตาม เราคิดว่า ตีหน้าเข้าหากันหมดแหละ คนเราพบเจอกัน อาจจะไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรกพบเลยก็ได้ แต่ก็ต้องยิ้มใส่กันอยู่ดี ในใจเราไม่สามารถที่จะรู้ได้หรอกว่าเค้าคิดยังไงกับเรา สังคมเราเจอหน้ากันก็ยิ้มให้กัน แต่ลับหลังอาจจะชอบเอาเราไปนินทานู้นนินทานี่ก็เห็นบ่อยๆ

แต่การตีหน้าเข้าหากันสำหรับฉันมันก็คือเรื่องดีอีกเรื่องหนึ่งเหมือนกันน่ะ เพราะทำไมนะหรอ ถ้าคนเราเกลียดกัน แล้วให้แสดงออกไปอย่างนั้น คิดอะไรก็ทำไปอย่างนั้น สังคมเราคงไม่เป็นสังคมอย่างทุกวันนี้หรอก สังคมเราอาจจะมีอาช๘ญากรรมเต็มไปหมด ถ้าคนเราไม่พยายามที่จะเก็บความเกลียดมันไว้ข้างในจิตใจ

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

-*-

เวลาที่เราเปิดเจอทีไรเนี๊ยะ

รู้สึกไม่ชอบเลย

รู้สึกไม่ค่อยพอใจน่ะว่าทำไมเค้ากล้าก๊อปปี้มา

ทั้งๆที่ได้ยินมาหลายครั้งละว่า kamikaze RS โดนชาวต่างชาติฟ้องบ่อยๆ

เพลงบองเล้าโลมบ้าง ดนตรีของเพลงนั้นเพลงนู้บ้าง

ยิ่งล่าสุด 7 day ยิ่งโครตจะเลียนแบบ girl generation มากๆอ่ะ

ทั้งภาพลักษณ์ ท่าเต้น ไม่ชอบเลยอ่ะ

ทำไมโดนฟ้องขนาดนี้แล้วยังไม่หยุดก๊อปปี้สักที

ถ้าเป็นเราเราคงอายน่ะ

ปล่อยแสง 3



เทศกาลปล่อยแสง 3 ตอน เด็กฉลาด ชาติเจริญ กิจกรรมภายในโครงการ
“Creative Thailand สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์”



โครงการที่ชอบ
โครงการที่ 1
ชื่อโครงการ หัวข้อวิทยานิพนธ์ โครงการออกแบบเครื่องประดับที่สะท้อนความรู้สึกเด็กที่มีเชื้อ HIV ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลือกปฏิบัติ

ผลงานการออกแบบของ ปัญจพล กุลปภังกร
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง

งานชิ้นนี้ที่ฉันได้ไปดู ส่วนใหญ่จะเป็นจิวรี่ เป็นจี้ ที่คล้าย symbol รูปเด็กที่สื้อถึงความทุกข์ ความเจ็บป่วย ต้องเจอด้วยโรคเอดส์รุมเร้าในชีวิต ขีวิตที่ต้องกินยาทุกวัน ฉีดยาบ่อยๆ เป็นในง่ามุมอีกมุมหนึ่ง ที่ฉันคิดว่าเค้าสื้ออกมาให้เราคิด แล้วเข้าใจสิ่งที่เค้าต้องการสื้อให้เรารับรู้เกี่ยวกับเด็กที่ติดโรคเอดส์ โดยผ่านผลงานการออกแบบเครื่องประดับ
เป็นถาพโดยรวมในงานปล่อยแสง 3

โครงการที่ 2
โครงการออกแลล Packaging มะม่วงสุก

ผลงานของ Poputh Nimchuar
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง
ชิ้นนี้เห็นแล้วชอบมาก เพราะ packaging มะม่วงที่เค้าทำออกมา ดูเป็นของมีราคาขึ้นมาเลยทีเดียว ถึงแม้ว่า วัสดุที่เค้านำมาออกแบบนั้น เป็นของราคาถูก มีแค่กระดาษ และกล่องรังเท่านั้น และมันก็เหมาะมากที่จะนำมาใช้ในชีวิตจริง ซึ่งเค้าทำออกมาในสไตญี่ปุ่น น่ารักและดูดีมาก ขอชมด้วยใจจริงคะ ไม่มีรูปน่ะคะ



โครงการที่ 3
โครงการการออกแบบเสื้อผ้าจากผ้าปิดปากอนามัย
ผลงานการออกแบบของ วราภรณ์ ปานเพ็ชร
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง
โครงงานเกี่ยวกับเรื่องของความอันตรายต่างๆที่อยู่รอบๆตัวเรา จะทำยังไงให้เรามีความปลอดภัยจากเชื้อโรคที่อยู่ในรอบๆตัวเราได้มากที่สุด ตอนแรกดูก็ไม่ค่อยน่าสนใจนะ แต่ฉันสนใจตรงที่เค้าออกแบบจากผ้าปิดปากอนามัยจริงๆ และสามารถใส่ได้จริง ซึ่งฉันคิดว่าทำได้ยากน่ะ ที่เราจะเอาผ้าปิดปากอนามัยมาเรียงต่อกันเป็นชุด

ยังไงก็อยากเชิญชวนเพื่อนๆไปดูงานกันเยอะๆน่ะ ยิ่งคนที่เรียนออกแบบอยู่แล้วยิ่งต้องไปดูเลย ถ้าใครไปดูไม่ทันก็ไม่เป็นไร ค่อยไปดูคราวหน้าก็ได้ รับรองต้องมีอีกแน่ ปล่อยแสง 4

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เรื่องของแมลงวัน



เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ถุงใสใส่น้ำ ไล่แมลงวันได้จริงเหรอ

แปลกน่ะที่มันสามารถไล่แมลงวันได้จริงอะ แต่เพราะอะไร เราลองไปหาคำตอบในเน็ตมา ได้ความว่า...

"ใช้ถุงน้ำพลาสติกใสใส่น้ำมัดให้ตึง ผูกห้อยแขวนไว้ไล่แมลงวันนี้ ใช้วิธีทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และการใช้ประสาทรับภาพในการมองเห็นของตาแมลงวันมาผสมผสานกัน ตาของแมลงวันมีอยู่ 2 ชนิด คือ ตารวม 2 ตา และตาเดี่ยวอีก 3 ตา ตาเดี่ยวจะอยู่เหนือตารวมตรงหัวส่วนบนระหว่างตารวม 2 ตา เรียงตัวกันเป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัวลง ตาเดี่ยวสามตานี้ จะช่วยให้แมลงวันสามารถมองเห็นในระยะที่ไกล ส่วนตารวม 2 ตาที่นูนออก 2 ข้างใหญ่กว่าหัวและลำตัวของแมลงวัน เป็นตารวมพิเศษ ซึ่งแต่ละข้างของตารวมประกอบด้วยตาเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมหลายหมื่นแสนตาเรียงต่อเนื่องกันเต็มลูกตาทั้ง 2 ข้าง และตาเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมของตารวมนี้ สามารถที่จะรับแสงสว่างได้ทุกมุมมอง ผ่านเสนส์และผลึกรูปกรวยรองรับแสง ซึ่งสามารถที่จะยืดและหดได้เพื่อปรับจอรับภาพที่มองเห็นทั้งในที่มืดและสว่าง ตารวมทำให้แมลงวันสามารถมองเห็นภาพได้กว้างกว่า 180 องศา จากจุดนี้เอง หากเรานำถุงพลาสติกใสใส่น้ำเปล่า ไปไว้ในบริเวณแสงแดด หรือแสงไฟที่มีลำแสงกระทบ ถุงพลาสติกที่บรรจุน้ำก็จะเสมือนหนึ่งลำแสงหักมุมสะท้อนออกเข้าตาแมลงวัน เลนส์รับภาพของตาแมลงวันเมื่อได้รับแสงก็จะสะท้อนแสง กลับมาที่ถุงน้ำพลาสติกนั้นเกิดเป็นแสงมุมตก มุมสะท้อนกับเลนส์รับภาพของตาแมลงวันสะท้อนกลับไปกลับมา ทำให้การปรับจุดรวมแสงที่จะส่งให้เกิดภาพบนจอรับภาพ ไม่ชัดเจน จะทำให้เกิดตาพร่ามัวแมลงวันจึงบินเข้าหาอาหารไม่ถูก ในระยะห่างประมาณ 100 เซนติเมตรขึ้นไป แม้ว่ามันจะได้กลิ่นอาหารก็ตาม "

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชีวิตเรา

วันๆนึง

เราทำอะไรบ้าง

และวันๆนึงคนอื่นเค้าทำอะไรกัน

เราเคยคิดไหมว่า

เราใช้ชีวิตแปลกไปจากคนอื่นหรือไม่

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ปวดหัว

บางครั้งสิ่งที่เราชอบ แต่มันก็อาจจะไม่เหมาะกับเราน่ะ

เราควรจะทำในสิ่งที่เราชอบหรือว่าทำในสิ่งที่เราถนัดดีอ่ะ

สงสัยจัง

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มัธยม

ใครคิดเหมือนเรามั่งเรื่องเเบบนี้คือเราสังเกตุจากตัวเองแล้วก็เพื่อนรอบๆตัวพบว่าเป็นแบบนี้ซะส่วนใหญ่

ม.1~เพิ่งเริ่มเข้าโรงเรียนคุณพ่อคุณแม่ยังๆไปรับไปส่งไม่มีอะไรผิดปกติ เลิกเรียนปุ๊ปกลับบ้านปั๊ป

ม.2~เริ่มที่รู้จักเพื่อนๆมากขึ้นอยากกลับบ้านเองพ่อแม่ไม่ต้องมาก็ได้
ผู้หญิงกระโปรงก็เริ่มพับตรงขอบกระโปรงขึ้นมาหน่อยนึงสั้นซักหน่อยละกันคอซองก็ยาวอีกซักนิดก็ดี

ม.3~เต็มที่กับชีวิตเลย ไปเรียนมั่งไม่เรียนมั่งเริ่มที่จะต่อต้านครูบาอาจารย์พ่อแม่
ถ้าเถียงอาจารยืได้เพื่อนๆก็จะบอกว่าเก่ง ตบกันแย่งผู้ชายเพื่อนก็จะชอบ
ผู้ชายใครไม่มีมอไซค์ถือว่าเชยหญิงไม่มอง ผู้หญิงอยู่โรงเรียนก็นิยมแต่งตัวกระโปรงสั้นอย่างกัยสาวรำวง
คอซอทั้งยาวทั้งเล็กจะถึงตาตุ่ม ถุงเท้านี้นะนักฟุตบอลเรียกพี่ สูงเข้าไว้หน้าต้องขาวๆใครมันดำก็จะมีความดัน(ทุรัง)สูงพยายามทำหน้าให้ขาวโบ๊ะเข้าไปแป้งปากนี้ต้องเน้นเฉพาะอุทัยทิพย์เท่านั้นถึงจะแดงได้ใจทรงผมก็ต้องเป็นทรงที่ซอยสุดๆแต่มาโรงเรียนแล้วโดนตัดมันก็เหลือเท่า ติ่งหูแสกข้างซะครึ่งกะโหลก ชุดอยุ่บ้านก็ต้องเป็นกางเกงJ.J.เท่านั้นไม่งั้นไม่ใส่เสื้อ แล้วจะชอบนั่งซ้อนท้ายมอไซค์ผู้ชาย เท่สุดๆ เพื่อนคนไหนในกลุ่มแฟนมันไม่มีมอไซค์ไม่คบชอบมากถ้าใครจะเรียกตัวเองว่า เด็กแวนซ์ และอีกอย่างนึงคือชอบที่จะมี PCT ซะส่วนใหญ่ยืนคุยแมร่งทั้งวี่ทั้งวัน แล้วชอบพูดคำรัยสายแปลกๆจาก ฮัลโหล ก็ต้องดัดเสียงให้น่ารักนิดนึง ช่วงนี้อยุ่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่าจะต่อม.4หรือจะเข้าพานิชย์ไปแร-ดดี

ม.4~เริ่มต้นใหม่กับชีวิตม.ปลายยังคงไม่วายทิ้งนิสัยเดิม
แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาใส่ชุดม.ปลายกระโปรงมันก็ต้องสั้นเข้าไว้ดึงให้สูงใต้นมก็งามมันถึงจะเริ่ดผู้ชายถึงจะ
มองหน้าตายังคงแต่งเหมือนเดิม ถุงเท้ายังคงคง super สูงเหมือนเดิม

ม.5~เริ่มที่จะคิดได้หน่อยนึงแล้ว เพราะปีหน้าต้องเอ็นท์

ม.6~เริ่มที่จะคิดมากขึ้น ลองย้อนกลับไปดูรุ่นน้องว่าทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ ต้องเเต่งตัวแบบนี้ ทำไมไม่ตั้งใจเรียน

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

cartoon

อ่านหรือดูการ์ตูน (เช่น โดราเอมอนด้านล่างนี้) แล้วเคยสงสัยไหมว่า การ์ตูนสงเสริมความคิดสร้างสรรค์ (หรือในทางกลับกัน – ความคิดสร้างสรรค์ที่นำมาใช้สร้างการ์ตูน) เกิดขึ้นได้อย่างไรและช่วยกันอย่างไรหรือไม่

ความจริงญี่ปุ่นไปไกลกว่านั้นมาก เค้ามีฮีโร่ของชาติที่เป็นนักเขียนการ์ตูนด้วย (ไม่ใช่คนเดียว แต่มีหลายคนในหลายยุคอีกต่างหาก และนับวันจะเป็น "ขาใหญ่" ทางด้านนี้มากขึ้นทุกที) ... เวลาภาพยนตร์การ์ตูนฝรั่งจากเครือใหญ่ๆ (ดิสนีย์หรือพิกซาร์) จบ ลองสังเกตดูชื่อคนในทีมงาน จะเห็นคนญี่ปุ่นในนั้นจำนวนหนึ่ง
เอาไว้จะมาเล่าให้ฟังกันว่า คนญี่ปุ่นเค้าสร้างชาติด้วยการ์ตูนอย่างไร (ส่วนคนไทย ... เป็นทาสของการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างไร คงสังเกตเห็นกันได้ไม่ยาก!)

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไม่เข้าใจ+

ไม่เข้าใจนิสัยของคนเราน่ะ ทำไมคนบางคนก็รู้สึกว่าจะเห็นความคิดของตัวเองเป็นใหญ่จัง ทั้งที่ในทางกลับกัน คนๆนั้นต่างหากที่ต้องเป็นคนที่ต้องแคร์ความรู้สึกของส่วนรวม แต่นี่เอาความเห็นแก่ตังของตัวเองมาพูดในทางที่ดี ประมาณว่าอยากจะให้คนส่วนรวมนั้นได้ประโยชน์จากการที่ตัวเองทำ ทั้งๆที่ตัวเองผิดอยู่เต็มเปา แต่ก็ไม่ขอโทษ แล้วยังมาโทษคนอื่นอีก คนแบบนี้ไม่เคยเจอ และถ้าเจอแล้วก็ไม่ชอบ ไม่อยากจะคบค้าสมาคมด้วย แต่ก็ต้องจำยอมนะ

สำหรับตัวของฉันเองฉันคิดว่าฉันไม่เคยเอาเปรียบใครนะ และไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบด้วย แต่ก็มักจะโดนบ่อยๆๆ 5555

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Degree project

วันนี้ส่ง Degree project เป็นครั้งแรก หาเรื่องมาเสนออาจารย์ 5 เรื่อง แต่ได้คุยจริงๆ 2 เรื่องเอง เพราะคนเยอะ ได้ตรวจกะอาจารย์นก เรื่องแรกที่คุยกะอาจารย์คือเรื่องจินตนาการ เราเสนออาจารย์ไปว่า การจินตนาการนั้น สำคัญกว่าความรู้ เพราะว่า ถ้าเครื่องบิน รถยนต์ คอมพิวเตอร์ และสิ้งของหลายๆอย่าง ไม่เกิดจารการจินตนาการ โลกของเราก็คงไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้ได้ อย่างเช่น ไอสไตน์ ที่เคยสอบตกเมื่อสมัยเด็ก แต่กลายเป็นนักฟิสิกซ์ได้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่จินตนาการ ความชั่งคิด ชั่งสงสัย ซึ่งเท่าที่เราไปศึกษามาก็รู้สึกว่า เออออออ จริงด้วย ถ้าเค้าเก่ง แต่เค้าไม่ได้คิดจินตนาการ ว่าอยากจะเห็นคนบินได้ เค้าก็ไม่สามารถที่จะคิดและสร้างเครื่องบินได้ แล้วเพื่อนๆหละ คิดเหมือนเราหรือเปล่า ความชั่งจินตนาการ สำคัญนะ

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

งง+งง

วันนี้เปิดเน็ตดูนู้นดูนี่ เห็นภาพนี้แปลกดีอะ มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไรนะ ลองมองดูดีๆสิ


แปลกๆไหม


Up : ปู่ซ่าบ้าพลัง


เรื่องนี้ขอนำเสนอเลย ว่าน่าสนใจมาก เรื่อง up คุณปู่ซ่าบ้าพลัง เรื่องนี้เราเคยเห็นรูปในเน็ตมานานแล้ว ก็คิดไว้แล้วต้องออกมาเป็นหนังมาให้พวกเราได้ดูกันไม่นานก็ช้าอย่างแน่นอน
และเราก็ได้ไปซื้อหนังสือมาอ่าน เค้าได้สัมพาสคนที่แต่งคิดเรื่องนี้ และพวกที่เป็นคนสร้างหนังเรื่องนี้ ซื่งเมื่อเราได้อ่านน่ะ ก็รู้สึกว่าพวกเค้าเป็นผู้ใหญ่ที่ชั่งจินตนาการอย่างมากเลย เค้าเป็นคนคิดเนื้อเรื่องเรียบเรียงเหตุการที่น่าสนุกประทับใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าหนังยังไม่เข้าน่ะ แค่อ่านเนื้อเรื่องย่อ ก็รู้สึกว่าอยากจะไปดูนะ และสิ่งที่ฉันประหลาดใจมากที่สุดนั่นก็คือ คนแต่งเรื่องนี้เป็นผู้ชาย ดูเค้าชั่งจินตนาการมากกว่าผู้หญิงซะอีก ไม่เชื่อลองอ่านเรื่องย่อดูสิคะว่าเรื่องนี้น่าสนใจมากแค่ไหน
เรื่องย่อ : วอลท์ ดิสนีย์ พิกซาร์ พร้อมดันผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่องที่ 10 ออกสู่สายตาผู้ชมด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด! เมื่อคุณปู่วัยขาสั่นอายุใกล้ 80 คาร์ล เฟรดริกเซน ซู่ซ่าเต็มร้อยออกเดินทางข้ามทวีปตามล่าหาฝัน กับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่น่าตื่นเต้นที่ต้องพบกับเหล่าร้ายและการตามล่า มากมาย และแล้วคุณปู่สุดซ่าก็ได้ค้นพบตัวเองในที่สุดว่า ชีวิตการเป็นซูเปอร์ฮีโร่นี่เพิ่งเริ่มต้นเมื่อถึงวัยใกล้ฝั่งจริงๆแต่สิ่งที่ทำให้การผจญภัยในครั้งนี้เป็นเสมือนฝันร้ายที่ไม่อยากตื่นมาเจอเลยของปู่ซ่าของเรา นั่นก็คือ รัสเซล ลูกเสือวัย 9 ขวบ นักผจญภัยที่เกิดมาพร้อมกับคำถามในทุกๆเรื่อง และเตรียมป่วนในทุกสถานการณ์ มาดูกันว่าที่ว่าบ้าพลังนั้น คุณปู่ของเราจะบ้ากับความยุ่งของเจ้าหนูรัสเซลก่อนจะได้ใช้พลังหรือไม่ จากผู้กำกับที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ พีท ด็อกเตอร์ จาก มอนส์เตอร์อิงค์ ให้เสียงโดย เอ๊ด เอสเนอร์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, และแน่นอน จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์ นักแสดงคนเดียวที่ได้พากย์เสียงในภาพยนตร์ทุกเรื่องของพิกซาร์ ซึ่งคราวนี้เขาจะรับบทเป็น คนงานก่อสร้างชื่อ ทอม เตรียมตัวผจญภัยบนท้องฟ้า ตะลุยป่าดงพงไพรไปกับฮีโร่วัยดึกและลูกเสือขี้สงสัย ในระบบดิสนีย์ดิจิตอล 3 มิติทะลุจอ
เป็นไงละคะ น่าดูไหม อย่าลืมไปดูให้ได้น่ะ พรุ่งนี้ก็จะเข้าแล้ว

ohhhh!!


เย่!!! ก่อนอื่นเลยอยากจะขอโทษเพื่อนๆด้วย ที่อัพโหลดช้า เพราะว่าเน็ตหอเรามีปัญหามาหลายวัน ขอโทษจริงๆ แต่เราก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่อัพเรื่องราวประหลาดใจไว้นะ เราจดไว้ในสมุดโน๊ตไว้ด้วย


ขอย้อนหลังไปวันอาทิตยที่ผ่านมา เราไม่ได้ไปไหนหรอกน่ะ แต่อยากจะเรื่องของวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่เราได้ไปงานfat ที่อิมแพคเมืองทองธานี งานนี้เป็นงาน T-Shirt จะว่าไปงานนี้เกิดมาเพื่อเด็กแนวเลยก็ว่าได้ เพราะว่างานนี้มีแต่เด็กแนว fashion จ๋ามาก แต่ละคนแต่งตัวมาประชันกันอย่างล้นหลาม มีหลายแบบหลายสไตด์ ไม่น่าเชื่อเลยน่ะคะว่าวัยรุ่นสมัยนี้ใส่ใจในเรื่องการแต่งตัวกันมาก ยิ่งแต่งตัวแปลกเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นที่สนใจของคนมาก และยิ่งทำให้คนๆนั้นที่ใส่มาเป็นจุดเด่น ไม่ว่าคนที่มองนั้น จะมองด้วยความชื่นชม มองด้วยความประหลาด มองด้วยความสมเพศก็ตาม


แปลกใจเหมือนกันนะว่า คนเราสมัยนี้ ชอบที่จะให้คนมอง ชอบเป็นจุดเด่น แค่นี้ก็ทำให้เค้ามีความสุขแล้วหรอ แต่ทำไมเค้าไม่มองถึงความรู้สึกคนอื่นเลยว่า ที่คนเค้ามองเพราะอะไร ไม่ใช่ว่าเค้าจะมองคุณอย่างชื่นชมนะ แต่บางทีเค้าอาจจะมองคุณแบบสมเพศก็ได้