วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เรื่องของแมลงวัน



เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ถุงใสใส่น้ำ ไล่แมลงวันได้จริงเหรอ

แปลกน่ะที่มันสามารถไล่แมลงวันได้จริงอะ แต่เพราะอะไร เราลองไปหาคำตอบในเน็ตมา ได้ความว่า...

"ใช้ถุงน้ำพลาสติกใสใส่น้ำมัดให้ตึง ผูกห้อยแขวนไว้ไล่แมลงวันนี้ ใช้วิธีทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และการใช้ประสาทรับภาพในการมองเห็นของตาแมลงวันมาผสมผสานกัน ตาของแมลงวันมีอยู่ 2 ชนิด คือ ตารวม 2 ตา และตาเดี่ยวอีก 3 ตา ตาเดี่ยวจะอยู่เหนือตารวมตรงหัวส่วนบนระหว่างตารวม 2 ตา เรียงตัวกันเป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัวลง ตาเดี่ยวสามตานี้ จะช่วยให้แมลงวันสามารถมองเห็นในระยะที่ไกล ส่วนตารวม 2 ตาที่นูนออก 2 ข้างใหญ่กว่าหัวและลำตัวของแมลงวัน เป็นตารวมพิเศษ ซึ่งแต่ละข้างของตารวมประกอบด้วยตาเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมหลายหมื่นแสนตาเรียงต่อเนื่องกันเต็มลูกตาทั้ง 2 ข้าง และตาเล็กๆ รูปหกเหลี่ยมของตารวมนี้ สามารถที่จะรับแสงสว่างได้ทุกมุมมอง ผ่านเสนส์และผลึกรูปกรวยรองรับแสง ซึ่งสามารถที่จะยืดและหดได้เพื่อปรับจอรับภาพที่มองเห็นทั้งในที่มืดและสว่าง ตารวมทำให้แมลงวันสามารถมองเห็นภาพได้กว้างกว่า 180 องศา จากจุดนี้เอง หากเรานำถุงพลาสติกใสใส่น้ำเปล่า ไปไว้ในบริเวณแสงแดด หรือแสงไฟที่มีลำแสงกระทบ ถุงพลาสติกที่บรรจุน้ำก็จะเสมือนหนึ่งลำแสงหักมุมสะท้อนออกเข้าตาแมลงวัน เลนส์รับภาพของตาแมลงวันเมื่อได้รับแสงก็จะสะท้อนแสง กลับมาที่ถุงน้ำพลาสติกนั้นเกิดเป็นแสงมุมตก มุมสะท้อนกับเลนส์รับภาพของตาแมลงวันสะท้อนกลับไปกลับมา ทำให้การปรับจุดรวมแสงที่จะส่งให้เกิดภาพบนจอรับภาพ ไม่ชัดเจน จะทำให้เกิดตาพร่ามัวแมลงวันจึงบินเข้าหาอาหารไม่ถูก ในระยะห่างประมาณ 100 เซนติเมตรขึ้นไป แม้ว่ามันจะได้กลิ่นอาหารก็ตาม "

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชีวิตเรา

วันๆนึง

เราทำอะไรบ้าง

และวันๆนึงคนอื่นเค้าทำอะไรกัน

เราเคยคิดไหมว่า

เราใช้ชีวิตแปลกไปจากคนอื่นหรือไม่

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ปวดหัว

บางครั้งสิ่งที่เราชอบ แต่มันก็อาจจะไม่เหมาะกับเราน่ะ

เราควรจะทำในสิ่งที่เราชอบหรือว่าทำในสิ่งที่เราถนัดดีอ่ะ

สงสัยจัง

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มัธยม

ใครคิดเหมือนเรามั่งเรื่องเเบบนี้คือเราสังเกตุจากตัวเองแล้วก็เพื่อนรอบๆตัวพบว่าเป็นแบบนี้ซะส่วนใหญ่

ม.1~เพิ่งเริ่มเข้าโรงเรียนคุณพ่อคุณแม่ยังๆไปรับไปส่งไม่มีอะไรผิดปกติ เลิกเรียนปุ๊ปกลับบ้านปั๊ป

ม.2~เริ่มที่รู้จักเพื่อนๆมากขึ้นอยากกลับบ้านเองพ่อแม่ไม่ต้องมาก็ได้
ผู้หญิงกระโปรงก็เริ่มพับตรงขอบกระโปรงขึ้นมาหน่อยนึงสั้นซักหน่อยละกันคอซองก็ยาวอีกซักนิดก็ดี

ม.3~เต็มที่กับชีวิตเลย ไปเรียนมั่งไม่เรียนมั่งเริ่มที่จะต่อต้านครูบาอาจารย์พ่อแม่
ถ้าเถียงอาจารยืได้เพื่อนๆก็จะบอกว่าเก่ง ตบกันแย่งผู้ชายเพื่อนก็จะชอบ
ผู้ชายใครไม่มีมอไซค์ถือว่าเชยหญิงไม่มอง ผู้หญิงอยู่โรงเรียนก็นิยมแต่งตัวกระโปรงสั้นอย่างกัยสาวรำวง
คอซอทั้งยาวทั้งเล็กจะถึงตาตุ่ม ถุงเท้านี้นะนักฟุตบอลเรียกพี่ สูงเข้าไว้หน้าต้องขาวๆใครมันดำก็จะมีความดัน(ทุรัง)สูงพยายามทำหน้าให้ขาวโบ๊ะเข้าไปแป้งปากนี้ต้องเน้นเฉพาะอุทัยทิพย์เท่านั้นถึงจะแดงได้ใจทรงผมก็ต้องเป็นทรงที่ซอยสุดๆแต่มาโรงเรียนแล้วโดนตัดมันก็เหลือเท่า ติ่งหูแสกข้างซะครึ่งกะโหลก ชุดอยุ่บ้านก็ต้องเป็นกางเกงJ.J.เท่านั้นไม่งั้นไม่ใส่เสื้อ แล้วจะชอบนั่งซ้อนท้ายมอไซค์ผู้ชาย เท่สุดๆ เพื่อนคนไหนในกลุ่มแฟนมันไม่มีมอไซค์ไม่คบชอบมากถ้าใครจะเรียกตัวเองว่า เด็กแวนซ์ และอีกอย่างนึงคือชอบที่จะมี PCT ซะส่วนใหญ่ยืนคุยแมร่งทั้งวี่ทั้งวัน แล้วชอบพูดคำรัยสายแปลกๆจาก ฮัลโหล ก็ต้องดัดเสียงให้น่ารักนิดนึง ช่วงนี้อยุ่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่าจะต่อม.4หรือจะเข้าพานิชย์ไปแร-ดดี

ม.4~เริ่มต้นใหม่กับชีวิตม.ปลายยังคงไม่วายทิ้งนิสัยเดิม
แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาใส่ชุดม.ปลายกระโปรงมันก็ต้องสั้นเข้าไว้ดึงให้สูงใต้นมก็งามมันถึงจะเริ่ดผู้ชายถึงจะ
มองหน้าตายังคงแต่งเหมือนเดิม ถุงเท้ายังคงคง super สูงเหมือนเดิม

ม.5~เริ่มที่จะคิดได้หน่อยนึงแล้ว เพราะปีหน้าต้องเอ็นท์

ม.6~เริ่มที่จะคิดมากขึ้น ลองย้อนกลับไปดูรุ่นน้องว่าทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ ต้องเเต่งตัวแบบนี้ ทำไมไม่ตั้งใจเรียน

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

cartoon

อ่านหรือดูการ์ตูน (เช่น โดราเอมอนด้านล่างนี้) แล้วเคยสงสัยไหมว่า การ์ตูนสงเสริมความคิดสร้างสรรค์ (หรือในทางกลับกัน – ความคิดสร้างสรรค์ที่นำมาใช้สร้างการ์ตูน) เกิดขึ้นได้อย่างไรและช่วยกันอย่างไรหรือไม่

ความจริงญี่ปุ่นไปไกลกว่านั้นมาก เค้ามีฮีโร่ของชาติที่เป็นนักเขียนการ์ตูนด้วย (ไม่ใช่คนเดียว แต่มีหลายคนในหลายยุคอีกต่างหาก และนับวันจะเป็น "ขาใหญ่" ทางด้านนี้มากขึ้นทุกที) ... เวลาภาพยนตร์การ์ตูนฝรั่งจากเครือใหญ่ๆ (ดิสนีย์หรือพิกซาร์) จบ ลองสังเกตดูชื่อคนในทีมงาน จะเห็นคนญี่ปุ่นในนั้นจำนวนหนึ่ง
เอาไว้จะมาเล่าให้ฟังกันว่า คนญี่ปุ่นเค้าสร้างชาติด้วยการ์ตูนอย่างไร (ส่วนคนไทย ... เป็นทาสของการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างไร คงสังเกตเห็นกันได้ไม่ยาก!)

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไม่เข้าใจ+

ไม่เข้าใจนิสัยของคนเราน่ะ ทำไมคนบางคนก็รู้สึกว่าจะเห็นความคิดของตัวเองเป็นใหญ่จัง ทั้งที่ในทางกลับกัน คนๆนั้นต่างหากที่ต้องเป็นคนที่ต้องแคร์ความรู้สึกของส่วนรวม แต่นี่เอาความเห็นแก่ตังของตัวเองมาพูดในทางที่ดี ประมาณว่าอยากจะให้คนส่วนรวมนั้นได้ประโยชน์จากการที่ตัวเองทำ ทั้งๆที่ตัวเองผิดอยู่เต็มเปา แต่ก็ไม่ขอโทษ แล้วยังมาโทษคนอื่นอีก คนแบบนี้ไม่เคยเจอ และถ้าเจอแล้วก็ไม่ชอบ ไม่อยากจะคบค้าสมาคมด้วย แต่ก็ต้องจำยอมนะ

สำหรับตัวของฉันเองฉันคิดว่าฉันไม่เคยเอาเปรียบใครนะ และไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบด้วย แต่ก็มักจะโดนบ่อยๆๆ 5555

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Degree project

วันนี้ส่ง Degree project เป็นครั้งแรก หาเรื่องมาเสนออาจารย์ 5 เรื่อง แต่ได้คุยจริงๆ 2 เรื่องเอง เพราะคนเยอะ ได้ตรวจกะอาจารย์นก เรื่องแรกที่คุยกะอาจารย์คือเรื่องจินตนาการ เราเสนออาจารย์ไปว่า การจินตนาการนั้น สำคัญกว่าความรู้ เพราะว่า ถ้าเครื่องบิน รถยนต์ คอมพิวเตอร์ และสิ้งของหลายๆอย่าง ไม่เกิดจารการจินตนาการ โลกของเราก็คงไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้ได้ อย่างเช่น ไอสไตน์ ที่เคยสอบตกเมื่อสมัยเด็ก แต่กลายเป็นนักฟิสิกซ์ได้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่จินตนาการ ความชั่งคิด ชั่งสงสัย ซึ่งเท่าที่เราไปศึกษามาก็รู้สึกว่า เออออออ จริงด้วย ถ้าเค้าเก่ง แต่เค้าไม่ได้คิดจินตนาการ ว่าอยากจะเห็นคนบินได้ เค้าก็ไม่สามารถที่จะคิดและสร้างเครื่องบินได้ แล้วเพื่อนๆหละ คิดเหมือนเราหรือเปล่า ความชั่งจินตนาการ สำคัญนะ

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

งง+งง

วันนี้เปิดเน็ตดูนู้นดูนี่ เห็นภาพนี้แปลกดีอะ มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไรนะ ลองมองดูดีๆสิ


แปลกๆไหม


Up : ปู่ซ่าบ้าพลัง


เรื่องนี้ขอนำเสนอเลย ว่าน่าสนใจมาก เรื่อง up คุณปู่ซ่าบ้าพลัง เรื่องนี้เราเคยเห็นรูปในเน็ตมานานแล้ว ก็คิดไว้แล้วต้องออกมาเป็นหนังมาให้พวกเราได้ดูกันไม่นานก็ช้าอย่างแน่นอน
และเราก็ได้ไปซื้อหนังสือมาอ่าน เค้าได้สัมพาสคนที่แต่งคิดเรื่องนี้ และพวกที่เป็นคนสร้างหนังเรื่องนี้ ซื่งเมื่อเราได้อ่านน่ะ ก็รู้สึกว่าพวกเค้าเป็นผู้ใหญ่ที่ชั่งจินตนาการอย่างมากเลย เค้าเป็นคนคิดเนื้อเรื่องเรียบเรียงเหตุการที่น่าสนุกประทับใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าหนังยังไม่เข้าน่ะ แค่อ่านเนื้อเรื่องย่อ ก็รู้สึกว่าอยากจะไปดูนะ และสิ่งที่ฉันประหลาดใจมากที่สุดนั่นก็คือ คนแต่งเรื่องนี้เป็นผู้ชาย ดูเค้าชั่งจินตนาการมากกว่าผู้หญิงซะอีก ไม่เชื่อลองอ่านเรื่องย่อดูสิคะว่าเรื่องนี้น่าสนใจมากแค่ไหน
เรื่องย่อ : วอลท์ ดิสนีย์ พิกซาร์ พร้อมดันผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่องที่ 10 ออกสู่สายตาผู้ชมด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด! เมื่อคุณปู่วัยขาสั่นอายุใกล้ 80 คาร์ล เฟรดริกเซน ซู่ซ่าเต็มร้อยออกเดินทางข้ามทวีปตามล่าหาฝัน กับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่น่าตื่นเต้นที่ต้องพบกับเหล่าร้ายและการตามล่า มากมาย และแล้วคุณปู่สุดซ่าก็ได้ค้นพบตัวเองในที่สุดว่า ชีวิตการเป็นซูเปอร์ฮีโร่นี่เพิ่งเริ่มต้นเมื่อถึงวัยใกล้ฝั่งจริงๆแต่สิ่งที่ทำให้การผจญภัยในครั้งนี้เป็นเสมือนฝันร้ายที่ไม่อยากตื่นมาเจอเลยของปู่ซ่าของเรา นั่นก็คือ รัสเซล ลูกเสือวัย 9 ขวบ นักผจญภัยที่เกิดมาพร้อมกับคำถามในทุกๆเรื่อง และเตรียมป่วนในทุกสถานการณ์ มาดูกันว่าที่ว่าบ้าพลังนั้น คุณปู่ของเราจะบ้ากับความยุ่งของเจ้าหนูรัสเซลก่อนจะได้ใช้พลังหรือไม่ จากผู้กำกับที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ พีท ด็อกเตอร์ จาก มอนส์เตอร์อิงค์ ให้เสียงโดย เอ๊ด เอสเนอร์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, และแน่นอน จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์ นักแสดงคนเดียวที่ได้พากย์เสียงในภาพยนตร์ทุกเรื่องของพิกซาร์ ซึ่งคราวนี้เขาจะรับบทเป็น คนงานก่อสร้างชื่อ ทอม เตรียมตัวผจญภัยบนท้องฟ้า ตะลุยป่าดงพงไพรไปกับฮีโร่วัยดึกและลูกเสือขี้สงสัย ในระบบดิสนีย์ดิจิตอล 3 มิติทะลุจอ
เป็นไงละคะ น่าดูไหม อย่าลืมไปดูให้ได้น่ะ พรุ่งนี้ก็จะเข้าแล้ว

ohhhh!!


เย่!!! ก่อนอื่นเลยอยากจะขอโทษเพื่อนๆด้วย ที่อัพโหลดช้า เพราะว่าเน็ตหอเรามีปัญหามาหลายวัน ขอโทษจริงๆ แต่เราก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่อัพเรื่องราวประหลาดใจไว้นะ เราจดไว้ในสมุดโน๊ตไว้ด้วย


ขอย้อนหลังไปวันอาทิตยที่ผ่านมา เราไม่ได้ไปไหนหรอกน่ะ แต่อยากจะเรื่องของวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่เราได้ไปงานfat ที่อิมแพคเมืองทองธานี งานนี้เป็นงาน T-Shirt จะว่าไปงานนี้เกิดมาเพื่อเด็กแนวเลยก็ว่าได้ เพราะว่างานนี้มีแต่เด็กแนว fashion จ๋ามาก แต่ละคนแต่งตัวมาประชันกันอย่างล้นหลาม มีหลายแบบหลายสไตด์ ไม่น่าเชื่อเลยน่ะคะว่าวัยรุ่นสมัยนี้ใส่ใจในเรื่องการแต่งตัวกันมาก ยิ่งแต่งตัวแปลกเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นที่สนใจของคนมาก และยิ่งทำให้คนๆนั้นที่ใส่มาเป็นจุดเด่น ไม่ว่าคนที่มองนั้น จะมองด้วยความชื่นชม มองด้วยความประหลาด มองด้วยความสมเพศก็ตาม


แปลกใจเหมือนกันนะว่า คนเราสมัยนี้ ชอบที่จะให้คนมอง ชอบเป็นจุดเด่น แค่นี้ก็ทำให้เค้ามีความสุขแล้วหรอ แต่ทำไมเค้าไม่มองถึงความรู้สึกคนอื่นเลยว่า ที่คนเค้ามองเพราะอะไร ไม่ใช่ว่าเค้าจะมองคุณอย่างชื่นชมนะ แต่บางทีเค้าอาจจะมองคุณแบบสมเพศก็ได้