วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรื่องที่เพื่อนๆน่าจะเคยเจอ

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอ เหตุการณ์อะไรสักอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกอยากจะบ้าตาย อย่างเช่น คุณทำงานใกล้เสร็จแล้ว แต่อยู่ดีๆไฟก็ดับ ทั้งๆที่คุณกำลังจะ saveมัน มันเลยทำให้คุณท้อ และอยากจะตัดมันออกไปจากใจ ไม่อยากสนใจแล้ว แต่ก็ไม่ได้ มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ คุณเลยต้องเริ่มจาก ศูนย์ ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากจะเป็นแบบนี้คุณก็ควรที่จะทำไปเซฟไปด้วย และมันจะทำให้คุณเป็นคนรอบครอบขึ้นโดยอัตโนมัติ

ทำไม

ทำไมคนส่วนใหญ่มักจะชอบมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัว ทั้งที่สิ่งใกล้ตัวนั้นแหละคือความจริงใจกับคุณที่สุด แต่คุณกับมองข้าม
แล้วทำไมคนส่วนใหญ่จึงเห็นค่าสิ่งอื่นๆที่อยู่ไกลตัว ทั้งๆที่คุณยังไม่รู้จักเค้าดีเลย ทำไม....

แลกกัน

วันก่อน ไป jj มา เห็นเสื้อสวยมาก เราก็เลยเลือกๆๆๆ ยืนเลือกสักแป๊บนึง ก็มีคนมาดัน ทำยังกับว่าเรามาทีหลัง เราก็งง คิดในใจว่าทำไมเค้าไมมีมารยาทอย่างนี้น่ะ ทำไมต้องมาเบียกให้เรากระเด็นออก แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เดินออกไม่ซื้อละหมดอารมย์ เลยไปเดินดูของอย่างอื่นกันกับน้อง แล้วพอมาวันนี้ ไปเดินซื้อของอีก เจอร้านขายกิ๊ฟ สวยมาก แต่คนดูเยอะมาก ความรู้สึกเราก็อยากจะวิ่งไปเบียด แต่เราก็คิดได้ เหตุการณืวันนั้น จึงหยุดชะงักแล้วคิดว่า ความรู้สึกของคนๆนั้นที่เข้ามาเบียดแย่งของกะเราคงไม่ตั้งใจหรอก อาจจะเป็นเพราะเค้าเห็นแล้วเกิดความตื่นเต้น อยากซื้อเลยเข้ามาดู เลยลืมคิดถึงคนอื่น ก็เหมือนกับความรู้สึกที่เราอยากจะเดินเข้าไปเบียดแย่งของกับคนอื่นนั้นแหละ เลยทำให้รู้ว่า คนเรา อย่าตัดสินแค่พียงการกระทำเพียงครั้งเดีย แล้วตัดสินว่าเค้าไม่มีมารยาท แต่ต้องลองเอาใจเค้ามาใส่ใจเราด้วย

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ประหารชีวิต

เมื่อวานดูข่าวเกี่ยวกับนักโทษประหารชีวิต 2 คน น่าสงสารมาก คือเคยดูรายการๆหนึ่ง จำไม่ได้ว่า รายการอะไร เค้าเคยพาไปดูวิธีการประหารชีวิต ไปดูที่เก็บศพ ประตูผี ทางเดินจากที่ไหนนี่แหละจำไม่ได้ แล้วต้องเดินปิดตาไปแดนประหาร แล้วก่อนประหารเค้าจะบอกภายในวันนั้นเลย คือไม่มีการได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย เพราะกลัวนักโทษประหารจะเครียด คือ ระหว่างทางเดินไปแดนประหารก็จะมีต้นไทร มีศารพระภูมิ ซึ่งนักโทษประหารจะไม่ได้เห็นเลย เพราะโดนปิดตา ก่อนประหารเค้าก็จะให้ทำพินัยกรรม โทรไปสั่งเสียกับครอบครัว ทานข้าวมื้อสุดท้าย นำพระมาเทศนา คือ น่าเศร้ามาก เห็นแล้วสงสาร คือเราดูแล้วเราก็เศร้าตามน่ะ คิดว่าถ้าเป็นคนที่เรารู้จักนี่ เราคนเศร้ามาก ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆไม่อยากจะเป็นอย่างั้น ก็อย่าไปยุ่งกับยาเสพติดโดยเด็ดขาด ไม่ฉะนั้นอาจจะเป็นเหมือนสองคนนั้นก็ได้นะ จำไว้ว่าโทษของยาเสสพติดร้ายแรงที่สุด มันยิ่งกว่าฆาตกรรมอีกน่ะ

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

-*-*-*-*-

ช่วนี้จ่องคอมนานๆไม่ค่อยได้เพราะปวดตามาก

ไม่เท่ากัน

คนเรามีความคิดที่ต่างกัน มีความสามารถที่ต่างกัน ก็ทำให้อะไรหลายๆอย่างไม่อาจจะเท่ากันได้ หมายถึง ความเอาใจใส่ในการเรียนอาจจะไม่เท่ากัน จึงทำให้มีความแตกต่างระหว่างคนสองคน ในโลกนี้เลยไม่มีความพอดี เพราะว่าเราไม่เท่ากัน

ทำสปาหลินปิง

บางครั้งก็รู้สึกอิจฉาหมี ว่าทำไมเกิดมาชีวิตที่แสนสุขสบายอย่างนี้ ตั้งแต่เกิดมา เรายังไม่เคยเข้าสปาเลยด้วยซ้ำ

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

error!

เอาผลงานทำงาน cd5มาให้เพื่อนๆได้ชม ตั้งใจทำมาก แต่ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะว่าไปเป็นการทำ stop motion ครั้งแรกเลย แต่ file มันตกขอบด้านขวาหน่อย ถ้าอยากดูเต็มๆก็คลิ๊กเข้าไปในตัวเว็ปเลยดีกว่า ยังไงก็ช่วยกันไปดูด้วยน้า

หลังจากทำงานนี้เสร็จ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะต้องวาดให้มันเคลื่อนที่ตั้ง 799 รูป ได้ประมาณ 3 นาทีก็เกือบตาย ทำเราสลบไปเลย เมื่อถึงห้องสลบไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็วันอาทิตย์ตอนเย็น รู้สึกปวดตามากกกก ทำเรา error ไปเลย ถึงผลงานจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่ แต่เราก็ภูมิใจน่ะที่ตั้งใจทำมัน ถึงแม้ว่าคะแนนออกมาจะเป็นอย่างไรก็พร้อมจะยอมรับ

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ผีหลอกกก

วันนั้นเช้ามาณประมาณ 6 โมง เรายังไม่ทันตื่นหรอก กำลังงงัวเงียๆอยู่ เพราะพี่ตื่นขึ้นมาคุยโทรศัพท์ เราก็ตื่นเพราะเสียงพี่นั้นแหละ เราก็ได้ยินเสียงพี่คุยโทรศัพท์ ด้ยินเสียงพี่อยู่ฝ่ายเดียว

ยังไม่ได้นอนเลยหรอ

ขนาดนั้นเลยหรอ

พยายามหลับตานอน

ท่องพุทโธ ๆๆ

อย่าไปคิดอารายมาก

ไอ้เราก็สะดุ้งตื่นเลย แสดงว่าต้องโดนผีหลอกแน่ๆ ด้วยความสนใจอยากรู้อยากเห็น รอให้เค้าคุยโทรศัพท์เสร็จก่อนแล้วค่อยถาม ว่าแฟนพี่โดนผีหลอกหรอ พี่สาวก็หัวเราะใหญ่เลย ถามว่าทำไมคิดอย่างนั้น เราก็ตอบไปตรงๆว่า ก็ฟังจากที่คุย เห็นพูดว่า

ยังไม่ได้นอนเลยหรอ

ขนาดนั้นเลยหรอ

พยายามหลับตานอน

ท่องพุทโธ ๆๆ

อย่าไปคิดอารายมาก

ซึ่งทั้งหมดพี่เราพูดถึงกาแฟ กินกาแฟแล้วตาค้าง นอนไม่หลับ ยังไม่ได้นอนเลย พี่เราเลยหัวเราะใหญ่เลย 5555

ลองมาคิดดูแล้ว การที่เราไปแอบฟังโทรศัพท์ที่เค้าคุยกัน สิ่งที่เราได้รับคือสารจากฝ่ายเดียว แล้วเราเอามาสรุปเอาเอง อาจจะเป็นเรื่องที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม คนละเรื่องกันเลยก็ได้ จริงไหม ถ้าเราไม่แน่ใจอย่าสรุปเอาเองว่าเรื่องที่เราได้ยินมันต้องเป็นอย่างนู้นอย่างนี้แน่ๆ ควรฟังแล้วนำมาคิดพิจราณาไตรตรองให้ดีเสียก่อน

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ใกล้

วันนี้พ่อบ่นใหญ่เลย หาแว่นไม่เจอ ทั้งๆที่แว่นนั้นอ่ะ พ่อใส่อยู่ พวกเราก็พากันหาๆๆๆๆๆๆๆ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนเป็นเรื่อง พ่อหงุดหงิด แม่ก็ช่วยหา พี่ก็ช่วยหา เราก็ช่วยหา ระหว่างที่พ่อกำลังก้มไปดูใต้โต๊ะนั้นแว่นก็หล่นลงจากตาของพ่อเอง พ่อก็บอกว่าเจอแล้วๆๆๆๆๆ แม่ถามพ่อว่าอยู่ไหน ก็อยู่กะตานี่แหละถึงว่าหายังไงก็หาไม่เจอ (กำ) ไม่แปลกเท่าไหร่หรอกที่พ่อหาไม่เจอ แต่ที่แปลกสุดๆก็คือแม่ พี่ และก็เรา นี่แหละ ที่ยืนคุยยืนมองหน้าพ่ออยู่แท้ๆกลับมองไม่เห็น ไม่ได้สังเกตกันเลย เป็นเรื่องแปลก ที่ของที่อยู่ใกล้เรามาก แต่เรากลับมองไม่เห็นมัน มองข้าม มองผ่าน ถ้าตัวเราเองมองไม่เห็นมันแล้วใครจะเห็น จริงไหม ตัวเราต่างหากที่สัมพัสมันได้ แต่มองข้ามผ่านมันไปเอง

****เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คุณมองเห็นค่าของคนที่อยู่ใกล้ๆตัวคุณหรือยัง หรือมองข้ามผ่าน****

บ้านใหม่

วันนี้ได้มาถึงบ้าน ( 18 ก.ค. 2009 ) ที่สกลนคร เป็นบ้านหลังใหม่ ที่เรายังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
เพราะพ่อกะแม่พึ่งย้ายมาเมื่อต้นเดือนนี้เอง หลายคนถามว่าทำไมถึงย้ายบ้าน ทั้งๆบ้านที่เราอยู่มันเป็นบ้านเราเราแท้ๆ แล้วทำไมต้องย้ายไปอยู่อีกหลัง ทั้งที่ค่าใช้จ่ายก็ต้องสูงขึ้นมากกว่าเดิมเยอะเลย หลายคนคงคิดว่า ยังไม่รู้จักพอ แต่ความจริงแล้ว ครอบครัวเราไม่ฟุ่มเฟือยน่ะ พอมีพอใช้ ไม่ดิ้นรนหาความสุขอะไรมากมายกับชีวิต แต่ที่ต้องย้ายก็คือความสบายใจ เมื่อบรรยากาศที่เราอยู่มันเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว เราก็ต้องไปหาที่มีอากาศหายใจที่บริสุทธ์จริงไหม คงไม่มีใครอยากอยู่กับสภาพแวดล้องที่ทำร้ายตัวเองหรอก ถ้าชีวิตของเรายังมีลมหายใจ และพอที่จะมีแรงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ก็ไม่ผิดที่เราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ถึงแม้มันจะรำบากแค่ไหนก็ตาม
หากคุณคิดที่จะบอกรัก
หรือรู้สึกตัวเองเริ่มที่จะรักใครสักคน
ลองถามตัวเองดูว่า คุณใส่ใจเค้ามากน้อยแค่ไหน
ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความเอาใจ
หากคนรักของคุณจำได้ขึ้นใจว่า
คุณเคยพูดว่าอยากได้อะไร แล้วเค้าหาซื้อของชิ้นนั้นให้
ไม่ใช่สักแต่ว่าซื้อของเยอะแยะมากมายเพื่อเอาใจ...
นั่นแหละถึงเรียกว่า...ค ว า ม ใ ส่ ใ จ
ควาใส่ใจ ไม่ใช่ ความหึงหวง
หาคนรักของคุณโทรหาคุณทุกคืน
ถามว่ากลับบ้านหรือยัง
เพียงเพราะเค้าเป็นห่วง
ไม่ต้องการให้คุณได้รับอันตรายในยามดึก
ไม่ใช่กลัวว่าคุณจะไปกับคนอื่น...
นั่นแหละเรียกว่า ค ว า ม ใ ส่ ใ จ
ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความมีน้ำใจอย่างเดียว
หากแต่มีความถนอมน้ำใจด้วย
หากคนรักของคุณทำอะไรเพื่อคุณสักอย่างด้วยความตั้งใจ
แต่คุณกลับไม่ชอบมัน
คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกไป
ใ ส่ ใจ ในความรู้สึกของเค้าด้วย
หากคุณทะเลาะกับคนรัก
แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คนรักของคุณยังโทรมา
แสดงความเป็นห่วงในเรื่องต่างๆ เหมือนทุกๆวัน
ทั้งๆที่ยังไม่หายโกรธ..
นั่นแหละเรียกว่า...ค ว า ม ใ ส่ ใ จ
หากคนรักของคุณยอมสละเวลาทำบางสิ่ง เอาไว้ทีหลัง
เพียงเพื่อช่วยทำในสิ่งที่คุณขอ..
นั่นแหละ เรียกว่า ค ว า ม ใ ส่ ใ จ
คนเราบางครั้งก็ต้องการมีใครสักคนคอยใส่ใจเราบ้าง
หากคุณต้องเดินทางไกล
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณโทรมาถามว่า
"ถึงหรือยัง" "ปลอดภัยดีไหม" "เหนื่อยไหม"
หากคุณต้องปฏิบัติภารกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องเรียน
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณจำได้
และโทรมาบอกว่า "โชดดีนะ" "ฉันจะคอยเป็นกำลังใจให้"
หากคุณต้องขับรถคนเดียว มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาบอกว่า
"ขับรถดีๆนะ"
หากคุณป่วยไข้ไม่สบาย มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาเตือนคุณให้คุณ
"กินยาและพักผ่อนมากๆ"
ความใส่ใจ กับความเกรงใจ คล้ายกันในหลายๆด้าน
คุณอาจคิดว่า ยิ่งคบกันสนิทสนมกันมากเท่าไหร่
ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจให้มากเหมือนคนที่เพิ่งเริ่มรู้จักกัน
แต่เราไม่คิดอย่างนั้น ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่
ต้องยิ่งเกรงใจซึ่งกันและกัน
ความเกรงใจเป็นสิ่งที่ดี
และเป็นบ่อเกิดของความสัมพันธ์อันยั่งยืน
คุณเห็นไหมละว่า
ไ ม่ ย า ก เ ล ย ที่ จ ะ แ ส ด ง ค ว า ม ใ ส่ ใ จ ต่ อ ใ ค ร สั ก ค น


คนที่คุณรัก เค้าใส่ใจคุณแค่ไหนก็หมายความว่าเค้ารักคุณเท่านั้นน่ะ